20.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 10 ผู้โดยสารขาออก เพื่อพบไกด์และรับเอกสาร และโหลดกระเป๋าเคาน์เตอร์ D สายการบินไทย (THAI AIRWAYS) เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอานวยความสะดวกในการเช็คอิน
23.55 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนิวชิโตเสะ เกาะฮอกไกโด ณ ประเทศญี่ปุ่น เที่ยวบินที่ TG670 (บริการอาหารร้อน พร้อมเครื่องดื่ม บนเครื่อง)
08.20 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนิวชิโตเสะ เกาะฮอกไกโด ณ ประเทศญี่ปุ่น หลังจากผ่านขั้นตอนศุลกากร เรียบร้อยแล้ว แล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับหลังผ่านขั้นตอนการเข้าประเทศแล้ว
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองโนะโบะริเบะสึ (Noboribetsu) เมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องเมืองน้ำแร่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮอกไกโด และน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองตำมธรรมชำตินั้นก็ถูกจัดว่ำดีที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่ทำงใต้ของเกำะฮอกไกโด อยู่ระหว่ำงเมืองซัปโปโรและเมืองฮำโกะดำเตะ นำท่ำนสู่ หมู่บ้านดาเตะจิไดมุระ (Noboribetsu Date Jidaimura) (ใช้เวลำเดินทำงประมำณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นหมู่บ้านที่จำลองวิถีชีวิตของชาวเอโดะในสมัยโบรำณ ภำยในหมู่บ้าน รายเรียงไปด้วยร้านค้า บ้านซามูไร บ้ำนนินจำ หอสังเกตการณ์ โรงละคร วัด และอื่นๆ อีกมากมาย ท่านสามารถสัมผัสบรรยากาศที่เสมือนอยู่ในยุคญี่ปุ่นโบราณ และยังสามารถเช่าชุดกิโมโนจากร้านค้าหน้าหมู่บ้านเพื่อมาถ่ายรูปให้เข้ากับบรรยากาศภายในหมู่บ้าน ซึ่งภายในหมู่บ้านก็จะมีคนแต่งตัวเป็นพ่อค้า ซามูไร หรือ นินจา เดินไปมา และยังมีการแสดงต่างๆ ให้ชมอีกด้วย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)
จากนั้นนำท่านสู่ หุบเขานรกจิโกกุดานิ Jigokudani หรือ Hell Valley (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) เป็นหุบเขาที่งดงาม น้ำร้อนในลำธารของหุบเขาแห่งนี้มีแร่ธาตุกำมะถันซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำของย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึนั่นเอง เส้นทางตามหุบเขาสามารถเดินไต่ขึ้นเนินไปเรื่อยๆประมาณ 20 -30 นาทีจะพบกับบ่อโอยุนุมะ (Oyunuma) เป็นบ่อน้ำร้อนกำมะถัน อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส ถัดไปเรื่อยๆก็จะเป็นบ่อเล็กๆ บางบ่อมีอุณหภูมิที่ร้อนกว่า และยังมีบ่อโคลนอีกด้วย น้ำที่ไหลออกจากบ่อโอยุนุมะ เป็นลำธารเรียกว่า โอยุนุมะกาว่า (Oyunumagawa) สามารถเพลิดเพลินไปกับการแช่เท้าพร้อมชมทิวทัศน์ที่งดงามนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1994 จากองค์การยูเนสโกในฐานะส่วนหนึ่งของอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์เมืองเกียวโต
หลังจากนั้นนำท่านเข้าชม สวนหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน (Showa-Shinzan Bear Park) (ไม่รวมค่าขึ้นกระเช้า) เป็นสถานที่เพาะพันธุ์หมีสีน้าตาล นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมลูกหมีสีน้าตาลได้อย่างใกล้ชิดผ่านกระจกใส และมีหมีโตเต็มวัยที่ไม่ดุร้ายโชว์ลีลาอ้อนขออาหารจากนักท่องเที่ยว เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูทีเดียว หากใครต้องการใกล้ชิดกว่านี้ก็สามารถเข้าไปยังห้องสังเกตการณ์พิเศษ กรงมนุษย์ ซึ่งจะมองเห็นหมีสีน้าตาลเดินผ่านไปมา และได้ยินเสียงและกลิ่นของหมีผ่านรูระบายอากาศเล็กๆ นอกจากนี้ยังยังขายขนมปัง และแอปเปิ้ล ให้นักท่องเที่ยวได้ป้อนอาหารหมีอีกด้วย หลังจากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ที่พัก (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10นาที) หลังจากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบโทยะ(Toya Lake)เป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในเมืองโทยะ เเละเป็นอีกหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ เเละเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้มาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง โดยมันเป็นทะเลสาบรูปวงกลมที่มีเส้นรอบวงยาวประมาณ 40 กิโลเมตร โดยเกิดจากการเป็นปากปล่องภูเขาไฟดั้งเดิม เเละตั้งอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบชิโกสึมากนัก ทำให้กลายมาเป็นเเหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอย่างมากอีกเเห่งของเมืองโทยะ เเละฮอกไกโด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ของโรงแรม (2)
หลังอาหารให้ท่านได้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำแร่ธรรมชาติ เชื่อว่าถ้าได้แช่น้ำแร่แล้ว จะทำให้ผิวพรรณสวยงามและช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น
ที่พัก TOYA SUN PALACE RESORT & SPA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)
นำท่านเดินทางสู่ ฟุกิดาชิพาร์ค (Fukidashi Park) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) เป็นสวนสาธารณะที่สวยงามและเป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมสำหรับการผ่อนคลาย ซึ่งมีพื้นที่ตั้งอยู่ริมภูเขาโยเท สิ่งที่ทำให้อุทยานแห่งนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวรวมถึงคนในท้องถิ่นก็คือ ที่นี่จะมีน้ำที่บริสุทธิ์ซึ่งไหลไปตามลำธาร สายน้ำเย็นที่ไหลลงมาจากภูเขาโยเท( Mt.Yotei) ซึ่งผู้คนสามารถนำภาชนะเพื่อเก็บน้ำสะอาดนี้ไปใช้ในการดื่มหรือนำกลับบ้าน อย่างไรก็ตามด้วยสถานที่ที่กว้างขวาง และต้นไม้ที่ขึ้นอยู่เรียงรายและทางเดินมากมายเชิญชวนให้ผู้คนเดินทางมาเยี่ยมเยียนและพักผ่อนหย่อนใจไปกับความเงียบสงบ หินที่ปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำและลำธารที่น่ารื่นรมย์ทำให้รู้สึกเหมือนว่าเป็นฉากหนึ่งจากภาพยนตร์แฟนตาซีที่มีคุณอยู่ในนั้นเลยทีเดียว
เดินทางสู่ เมืองโอตารุ (Otaru) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) โอตารุเป็นเมืองท่าสำคัญสำหรับซัปโปโร และบางส่วนของเมืองตั้งอยู่บนที่ลาดต่ำของภูเขาเท็งงุ ซึ่งเป็นแหล่งสกีและกีฬาฤดูหนาวที่มีชื่อเสียง
เดินชม คลองโอตารุ (Otaru Canal) หรือ โอตารุอุนงะ มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอตารุ โดยมีโกดังเก่าบริเวณโดยรอบปรับปรุงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่ ไฮไลท์!!! บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก คลองแห่งนี้สร้างเมื่อปี 1923 โดยสร้างขึ้นจากการถมทะเล เพื่อใช้สำหรับเป็นเส้นทางการขนถ่ายสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และมีการถมคลองครึ่งหนึ่งเพื่อทำถนนหลวงสาย 17 แล้วเหลืออีครึ่งหนึ่งไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการสร้างถนนเรียบคลองด้วยอิฐแดงเป็นทางเดินเท้ากว้างประมาณ 2 เมตร
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (4)
เข้าชม พิพิทธภัณฑ์กล่องดนตรี (Music Box Museum) พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุเป็น หนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงามและถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เมือง ไฮไลท์!!! หน้าอาคารหลักของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี มี นาฬิกาไอน้ำ (Steam Clock) ปัจจุบันมีเพียง 2 เรือนในโลกคือที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา กับที่เมืองโอตารุแห่งนี้ นาฬิกาจะเล่นเพลงและปล่อยไอน้ำออกมาทุกๆ 15 นาที ถือเป็นจุดแลนด์มาร์คอีกหนึ่งจุดที่มาโอตารุแล้วไม่ควรพลาด นอกจากสถานที่ดังกล่าวข้างต้นนั้น ยังมีร้านขนมและร้านขายสินค้าที่ระลึกอีกมากมาย เช่น ร้านขนม LeTAO ที่ภายในนอกจากจะจำหน่ายขนมแล้วยังเป็นร้านกาแฟ ที่หากท่านเดินช้อปปิ้งมาเหนื่อยๆ สามารถแวะมาพักผ่อนจิบเครื่องดื่ม พร้อมชิมขนมหวาน ณ ร้านนี้ได้ ร้าน Rokkatei โกดัง โรงงานผลิตขนมของฮอกไกโด ด้านในมีจำหน่ายขนมนมเนย รวมไปถึง กาแฟ และของฝากของขึ้นชื่อของเมืองโอตารุ อีกทั้งสามารถซื้อสินค้าแบบ Tax Free ได้ด้วย และข้างๆกันยังมี ร้าน Kitakaro โกดังผลิตขนมอีกรายหนึ่ง ร้านนี้เน้นในส่วนของขนมสด อาทิ ซอฟท์ครีม เค้กต้นไม้ และขนมอบต่างๆ เป็นต้น อิสระให้ท่านเดินเล่น ถนนซาไกมาจิตามอัธยาศัย
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซัปโปโร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
จากนั้นนำท่านสู่ ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า (ด้านนอก)(Former Hokkaido Government Office) เป็นอาคารสีแดงอิฐ สร้างในปี 1888 นับเป็นอาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในไม่กี่อาคารของญี่ปุ่นในสมัยนั้น ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ด้านหน้ามีสัญลักษณ์ดาวห้าแฉก ธงรูปดาวเจ็ดแฉก และสวนหย่อมที่ร่มรื่น เรียงรายด้วยต้นซากุระ และต้นแปะก๊วย อาคารแห่งนี้เคยเป็นที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นสมัยบุกเบิกเกาะฮอกไกโด ปัจจุบันเปิดให้ประชาชนเข้าชมห้องทำงานต่างๆ และหอสมุดเก็บบันทึกทางราชการ ผ่านชม หอนาฬิกาเมืองซัปโปโร (Sapporo Clock Tower หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Sapporo Tokeidai) เป็นหอนาฬิกาโบราณมีลักษณะเป็นอาคารไม้ที่มีหลังคาสีแดงและผนังสีขาวถูกออกแบบและบริจาคให้โดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1878 เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเมืองซัปโปโร สำหรับตัวนาฬิกาถูกติดตั้งในปี ค.ศ. 1881 จากบริษัท E. Howard & Co. เมือง Boston และในปี ค.ศ. 1970 หอนาฬิกาแห่งนี้ถูกกำหนดให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญแห่งชาติ อีกด้วย
เย็น รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (5) --- บุฟเฟต์ปิ้งย่าง + ขาปูยักษ์
ที่พัก SAPPORO VIEW HOTEL ODORI KOUEN หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6)
อิสระช้อปปิ้ง ดิวตี้ฟรี (Duty Free) ให้ท่านเลือกซื้อสินค้าปลอดภาษี ทั้ง ยาบำรังกำลัง วิตามิน น้ำหอม ต่างๆ และสินค้าของฝากญี่ปุ่นต่างๆอีกมากมาย ตามอัธยาศัย
จากนั้นเดินทางสู่ เมืองฟุราโน่ (Furano) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองกิ่งจังหวัดคามิกาวะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีอากาศเย็นและแห้งประกอบกับดินแถบนั้นเป็นดินภูเขาไฟจึงเหมาะแก่การเพาะปลูกผลิตผลทางการเกษตร โดยเฉพาะดอกไม้ อย่างเช่นดอกลาเวนเดอร์ เป็นต้น แต่ในช่วงฤดูหนาวก็จะเป็นลานหิมะขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา เหมาะสำหรับการเล่นสกี นั่นเอง
จากนั้น เดินทางสู่ หมู่บ้านเทพนิยาย นิงเกิ้ลเทอเรส (Ningle Terrace) เป็นหมู่บ้านงานฝีมือและทางเดินไม้ในป่าที่เหมือนกับศิลปะในเทพนิยาย ซึ่งประกอบด้วยร้านค้า 15 ร้าน (บ้าน 15 หลัง) ที่จำหน่ายสินค้าแบบออรินัลของท้องถิ่น โดยมีร้านกาแฟ Chu Chu no Ie ตั้งอยู่ใจกลางของหมู่บ้าน ร้านค้าต่างๆ จะอยู่ไม่ไกลกันมาก ทำให้ดูเหมือนเป็นหมู่บ้านซึ่งอยู่ท่ามกลางป่า คล้ายบ้านในเทพนิยาย หน้าหนาวเช่นนี้ก็จะได้บรรยากาศหิมะแบบขาวโพลน แต่ในฤดูร้อนก็จะได้บรรยากาศของป่าสนเขียวขจีกับบ้านไม้ในป่าสน อิสระตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (7)
นำท่านสู่ ลานสกีชิคิไซพาโนราม่า (Shikisai no oka) เนินที่ราบกว้างใหญ่ที่มีโรลคุงและโรลจัง เป็นหุ่นฟางขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของลานสกีแห่งนี้ ท่านสามารถสนุกสนานกับลานกิจกรรมที่มีบริการอยู่ที่นี่ ทั้งแบบ Snow Raft เรือยางขนาดใหญ่ที่สามารถนั่งเป็นกลุ่ม หรือเดี่ยว ไหลลงจากเนินตามเนินเขาที่กำหนด และยังมี Banana Boat ที่ลากด้วยสโนวโมบิวที่ลากซิกแซกตามสันเนินสร้างความสนุกสนานตื่นเต้นได้มากเลยทีเดียว และ Sled สำหรับพาหนะส่วนตัว ที่ไหล่ลงจากเนินสูง (**หมายเหตุ ราคาไม่รวมค่าเล่นกิจกรรมต่างๆ ค่าเช่าชุดและอุปกรณ์สกี กรณีลานสกีปิด บริษัทสงวนสิทธิ์ นำลูกค้าไปลานสกีอื่นแทนได้ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์)
เดินทางสู่ เมืองอาซาฮิคาว่า (Asahikawa) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของจังหวัดฮอกไกโด รองจากเมืองซัปโปโร เป็นเมืองศูนย์กลางทางตอนเหนือของเกาะ ล้อมรอบด้วยเทือกเขาไดเซ็ตสึซันและแม่น้ำน้อยใหญ่ มีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอยู่หลายแห่งที่ไม่ควรพลาด
จากนั้นนำท่านช้อปปิ้ง ณ อิออน อาซาฮิคาว่า (AEON Asahikawa Ekimae) ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของฮาซาฮิคาว่า อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึกกัน อาทิ ขนมโมจิ เบนโตะ ผลไม้ และขนมขึ้นชื่อของญี่ปุ่น อย่าง คิทแคท สามารถหาซื้อได้ที่นี่เช่นกัน
ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย
พักที่ HOTEL AMANEKU ASAHIKAWA หรือระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (8)
เดินทางสู่ สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นสวนสัตว์ที่มีชื่อเสียงในแถบรอบนอกของเมืองอาซาฮิกาวะ กลางเกาะฮอกไกโด ซึ่งทางสวนสัตว์อนุญาตให้ผู้เข้าชม ได้เข้าชมสัตว์นานาชนิดจากหลากหลายมุมมอง เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนสวนสัตว์แห่งอื่นๆ ไฮไลท์!!! ได้แก่ อุโมงค์แก้วผ่านสระว่ายน้ำของเหล่าเพนกวินและโดมแก้วขนาดเล็กที่อยู่ตรงกลางของโซนหมีขั้วโลกและหมาป่า ผู้เข้าชมจะมองเห็นได้อย่างชัดเจน สวนสัตว์แห่งนี้ยังเป็นสวนสัตว์แห่งแรกที่มีการจัดให้เพนกวินออกเดินในช่วงฤดูหนาว ท่านจะได้ชม “ขบวนพาเหรดเพนกวิน” แบบใกล้ชิด (**หมายเหตุ เนื่องจากขบวนพาเหรดเพนกวินมีเป็นรอบ สงวนสิทธิ์หากท่านไปไม่ตรงช่วงเวลาที่มีขบวนพาเหรด ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับความน่ารักของสัตว์ชนิดอื่นๆ ทดแทน)
เดินทางสู่ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาวะ (Asahikawa Ramen Village) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที) ที่ราเมนของที่นี่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์และได้รับการกล่าวขานถึงความอร่อยมายาวนานกว่าทศวรรษ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาว่าได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1996 โดยรวบรวมร้านราเมนชื่อดังของเมืองอาซาฮิคาว่าทั้ง 8 ร้านมาอยู่รวมกันเป็นอาคารหลังคาเดียว ไฮไลท์!!! หมู่บ้านราเมนที่รวบรวมร้านดังขั้นเทพไว้ในที่เดียว และยังมีห้องเล็กๆที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาขอหมู่บ้านแห่งนี้ให้สำหรับผู้ที่สนใจได้มาศึกษาอีกด้วย ทุกๆ ร้านจะสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวของร้านตนเองขึ้นมาเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า เช่น ร้าน Asahikawa Ramen Aoba ที่แสนภาคภูมิใจในความเป็นราเมนเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในอาซาฮิคาว่า หรือจะเป็นร้าน Ramen Shop Tenkin ที่เชื่อมั่นในน้ำซุปของตัวเองว่าเป็นหนึ่งไม่แพ้ใครที่สำคัญ ราเมง ถือเป็นอาหารเมนูยอดนิยมของคนญี่ปุ่น เพราะด้วยความที่กินง่ายและมีรสชาติที่หลากหลายจึงเป็นที่ถูกใจของคนญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย
เที่ยง อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ณ หมู่บ้านราเมน
จากนั้นเดินทางกลับ เมืองซัปโปโร (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
นำท่านขอพร ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine) หรือเดิมชื่อ ศาลเจ้าซัปโปโร เปลี่ยนเพื่อให้สมกับ ความยิ่งใหญ่ของเกาะเมืองฮอกไกโด ศาลเจ้าชินโตนี้คอยปกปักษ์รักษา ให้ชนชาวเกาะฮอกไกโดมีความสงบสุขถึงแม้จะไม่ได้มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน
อิสระให้ท่านเดินเล่น ณ ถนนช้อปปิ้งทานุกิโคจิ (Tanukikoji Shopping Street) เป็นย่านการค้าเก่าแก่ของเมืองซัปโปโร โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 7 บล็อก ภายในนอกจากจากจะเป็นแหล่งรวมร้านค้าต่างๆ อย่างร้านขายกิโมโน เครื่องดนตรี วิดีโอ โรงภาพยนตร์แล้ว ยังมีร้านอาหารมากมาย ทั้งยังเป็นศูนย์รวมของเหล่าวัยรุ่นด้วย เนื่องจากมีเกมเซ็นเตอร์ และตู้หนีบตุ๊กตามากมาย ร้านดองกิ ร้าน 100 เยน นอกจากนั้นที่นี่ยังมีการตกแต่งบนหลังคาด้วยตุ๊กตาทานุกิขนาดใหญ่ และเนื่องจากร้านค้าส่วนใหญ่มีหลังคาคลุม ดังนั้น ไม่ต้องกังวลเรื่อง ฝนหรือหิมะ ท่านสามารถช้อปปิ้งได้อย่างเพลิดเพลิน
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก SAPPORO VIEW HOTEL ODORI KOUEN หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า (9) --- BOX SET (เนื่องจากบินไฟท์เช้าต้องออกก่อนเวลาห้องอาหารเปิด)
07.00 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนิวชิโตเสะ ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)
10.00 น. เหิรฟ้าสู่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดย สายการบินไทย (THAI AIRWAYS) เที่ยวบินที่ TG671
15.50 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย พร้อมกับความประทับใจเต็มเปี่ยม
**สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**
110/59 หมู่.4 หมู่บ้าน Pruksa Avenue ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ